ควรรู้ไว้: เครื่องชั่งอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องชั่งดิจิทัลช่วยในการวัดน้ำหนักของวัตถุ อาจดูคล้ายกันแต่ทำงานต่างกัน
ดังนั้น เครื่องชั่งอิเล็กทรอนิกส์จึงมีความแม่นยำมากกว่าเครื่องชั่งดิจิทัล เครื่องชั่งประเภทนี้ถูกใช้โดยบุคคลในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เพราะสามารถวัดน้ำหนักได้ละเอียดถึงระดับมิลลิกรัมหรือน้อยกว่านั้น ขณะที่เครื่องชั่งดิจิทัลถูกใช้สำหรับงานทั่วไป เช่น การชั่งส่วนผสมในครัว หรือการชั่งพัสดุที่จะส่งไปรษณีย์
พิจารณาสิ่งที่คุณต้องการใช้เครื่องมือนั้นก่อนตัดสินใจเลือกเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่ง สำหรับการวัดปริมาณเล็กๆ อย่างแม่นยำมาก ควรใช้เครื่องชั่งอิเล็กทรอนิกส์ แต่ถ้าคุณต้องการใช้งานทั่วไป เครื่องชั่งดิจิทัลก็เป็นตัวเลือกที่ดี
เครื่องมือทั้งสองชนิดนี้ทำงานในลักษณะที่น่าสนใจ เครื่องมือห้องปฏิบัติการ ใช้เซนเซอร์พิเศษในการตรวจจับน้ำหนักของวัตถุเมื่อวางบนเครื่องชั่ง จากนั้นเซนเซอร์จะส่งสัญญาณไปยังหน้าจอแสดงผลดิจิทัลที่แสดงน้ำหนักเป็นตัวเลข ขณะที่เครื่องชั่งดิจิทัลใช้กลไกเซนเซอร์แบบเกจวัดแรง (strain gauge) ซึ่งทำหน้าที่วัดแรงโน้มถ่วงของวัตถุและแปลงเป็นตัวเลขแสดงน้ำหนักบนหน้าจอ
การตัดสินใจเลือกระหว่างเครื่องมือทั้งสองชนิดนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ และระดับความแม่นยำที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานในห้องปฏิบัติการ การใช้เครื่องชั่งอิเล็กทรอนิกส์มีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้ได้ค่าการวัดสารเคมีที่แม่นยำ แต่หากคุณเป็นคนทำขนมที่ต้องชั่งส่วนผสมสำหรับเค้ก เครื่องชั่งดิจิทัลก็เพียงพอแล้ว
ตัวอย่างจากโลกความเป็นจริงสามารถแสดงให้เห็นว่าเมื่อใดควรใช้เครื่องมือแต่ละชนิด เช่น ช่างทองที่ต้องชั่งน้ำหนักอัญมณีขนาดเล็กจำเป็นต้องใช้ดุลย์ไฟฟ้าที่ให้ความแม่นยำ แต่หากคุณเป็นเกษตรกรที่ต้องนำผลผลิตไปขายตามตลาด การชั่งน้ำหนักผลไม้หรือผักด้วยเครื่องชั่งดิจิทัลจะสะดวกและรวดเร็วกว่าสำหรับปริมาณมาก
ดังนั้นโดยรวมแล้ว เครื่องมือทางอุตสาหกรรม รวมถึงเครื่องชั่งดิจิทัลที่มีประโยชน์สำหรับงานต่างๆ การเข้าใจถึงความแตกต่างและสิ่งที่คุณต้องการจะช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม สำหรับงานทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องความแม่นยำ คุณน่าจะเลือกดุลย์ไฟฟ้า ส่วนงานทั่วไปคุณจะเลือกเครื่องชั่งดิจิทัล แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกเครื่องมือประเภทใด มันล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่ง






































